อัปเดตสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ พบป่วยเพิ่ม 1 ราย เสี่ยงสัมผัส 638 ราย

จากกรณีที่ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) 1 รายในจังหวัดมุกดาหาร ล่าสุด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร (สสจ.มุกดาหาร) รายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย ส่งผลให้ยอดสะสมผู้ป่วยเป็น 2 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย พร้อมตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่อาจสัมผัสเชื้อจำนวน 638 ราย
นายแพทย์วีรวัฒน์ มโนสุทธิ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย โดยแหล่งรังโรคมักพบในสัตว์เท้ากีบ เช่น วัว ควาย แพะ และแกะ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่:

- **ทางผิวหนัง**: จากการสัมผัสเนื้อสัตว์ที่ป่วยตาย โดยเฉพาะหากมีบาดแผล
- **ทางการกิน**: การรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก อาจทำให้ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด
- **ทางการหายใจ**: จากการสูดสปอร์ของเชื้อที่ปะปนอยู่ในดินหรือฟางแห้ง
รายละเอียดผู้ป่วย

- **ผู้เสียชีวิต**: ชายอายุ 53 ปี มีประวัติชำแหละเนื้อโคที่ป่วยตาย เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2568 จากนั้นมีแผลที่มือ และอาการลุกลามจนติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตในวันที่ 29 เมษายน 2568
- **ผู้ป่วยรายที่สอง**: ชายอายุ 53 ปี มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยในพื้นที่เดียวกัน มีอาการตุ่มพุพองบริเวณมือ ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อแอนแทรกซ์ และได้รับยาปฏิชีวนะแล้ว
มาตรการควบคุมและป้องกัน
- กลุ่มเสี่ยง 638 ราย ได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันเรียบร้อยแล้ว
- สัตว์เลี้ยงในรัศมี 5 กม. จากพื้นที่เกิดโรค จำนวน 1,222 ตัว มีการฉีดยารักษาและให้วัคซีนป้องกัน
- มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ออกจากพื้นที่
- จะมีการเฝ้าระวังในคนเป็นเวลา 60 วัน และฉีดวัคซีนป้องกันในสัตว์ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี
กรมควบคุมโรคยังชี้แจงว่ากำลังสอบสวนว่ามีการนำสัตว์ข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่เบื้องต้นระบุว่าสัตว์ติดเชื้อนั้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โดยได้เก็บตัวอย่างดินและบริเวณคอกสัตว์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
ข้อแนะนำสำหรับประชาชน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วยตาย
- สวมถุงมือและปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกทุกครั้ง
- หากมีแผลและสัมผัสสัตว์ป่วย ควรรีบพบแพทย์และแจ้งประวัติการสัมผัส