โควิด 2568 สายพันธุ์โอมิครอน XEC คืออะไร อาการเป็นอย่างไร ดูแลอย่างไร?
ในปี 2568 โควิด 19 กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดยมีสายพันธุ์หลักที่ระบาดคือ โอมิครอน XEC ซึ่งเป็นลูกผสมของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย KS.1.1 (FLiRT) และ KP.3.3 (FLuQE) พบครั้งแรกในเยอรมนีเมื่อเดือนมิถุนายน 2567
โควิดสายพันธุ์ XEC แพร่เร็วแค่ไหน?
ข้อมูลจากหลายประเทศระบุว่า สายพันธุ์ XEC แพร่กระจายได้เร็วมาก:
- เยอรมนี พบการแพร่ระบาดครั้งแรก
- อังกฤษ – แพร่เร็วกว่าโอมิครอนรุ่นก่อน 84%
- สหรัฐฯ – แพร่เร็วกว่าเดิม 90%
- จีน – เร็วกว่าถึง 110%
สถิติการระบาดในไทย
อ้างอิงจากกรมควบคุมโรค (ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2568):
- ผู้ป่วยสะสม: 41,197 ราย
- เสียชีวิตสะสม: 15 ราย
- แนวโน้ม: เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลายเป็นโรคประจำถิ่น
กลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ยังต้องระวัง หากติดเชื้ออาจมีโอกาสเสียชีวิตได้
อาการโควิดสายพันธุ์ XEC
อ้างอิงจากคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และ NHS:
- ไข้สูง หรือหนาวสั่น
- ไอต่อเนื่องนานเกิน 1 ชั่วโมง
- สูญเสียการรับกลิ่นหรือรส
- หายใจลำบาก
- รู้สึกเหนื่อย หมดแรง
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- เจ็บคอ
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เบื่ออาหาร
- ท้องเสีย
- อาเจียน หรือรู้สึกไม่สบาย
ดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อพบว่าติดโควิด?
- แยกตัวจากคนทั่วไป อย่างน้อย 3 วัน
- หลีกเลี่ยงกลุ่มเสี่ยง (ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง) อย่างน้อย 10 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ
- สังเกตสีปัสสาวะ ควรเป็นสีเหลืองใส
- รับประทานยาลดไข้ตามอาการ
- หากไอต่อเนื่อง แนะนำให้รับประทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (ไม่ควรให้เด็กต่ำกว่า 1 ขวบ)
- ฝึกหายใจลึก ๆ เข้า-ออก เพื่อช่วยระบบหายใจ
ข้อมูลล่าสุดจาก: กรมควบคุมโรค, รพ.รามาธิบดี, NHS (สหราชอาณาจักร)